• กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ ตอกย้ำคุณภาพการบริการ ผ่านกลยุทธ์ดิจิทัล ตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุคใหม่

กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ ตอกย้ำคุณภาพการบริการ ผ่านกลยุทธ์ดิจิทัล ตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุคใหม่

สถานการณ์ตลาดเครื่องจักรอุตสาหกรรมไทยในยุคศตวรรษที่ 21 เห็นได้ถึงภาวะการแข่งขันที่ขับเคี่ยวกันอย่างรุนแรงของผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องจักรกลจากหลายๆ บริษัท นี่เอง ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องจักรอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งพัฒนาและนำเสนอเทคโนโลยีเครื่องจักรกลที่มีความทันสมัย เพื่อเป็นเครื่องมือให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในภาพรวมสามารถแข่งขันได้ เท่าทันต่อบริบทแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

บริษัท กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลมาตรฐานสูง ตระหนักดีถึงความสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทันยุคสมัย ผสานกับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การทำงานอย่างมืออาชีพ ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจาก OKUMA ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลประสิทธิภาพยอดเยี่ยมมาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการจัดจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมคุณภาพหลากหลายแบรนด์ดัง อาทิ SODICK Wirecut & EDM, FANUC Robodrill และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ จาก ญี่ปุ่น ยุโรป และไต้หวัน พร้อมคัดสรรเครื่องจักรกลคุณภาพระดับสากลเพื่อรองรับงานสู่อุตสาหกรรม 4.0

Okuma สั่งสมประสบการณ์ พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง

คุณสมชาย จิรัฐิติอำไพวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ จำกัด ได้กล่าวว่า “OKUMA เป็นผู้ผลิตเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นทุกปีติดอันดับ TOP 5 ของโลกมาโดยตลอด รวมถึงเป็นที่รู้จักในแวดวงอุตสาหกรรมซึ่งทั่วโลกยอมรับเป็นอย่างดีว่าเครื่องจักรของ OKUMA นั้นมีความแข็งแรง ทนทาน ประสิทธิภาพสูง มีเสถียรภาพในการทำงาน และที่สำคัญยังเป็นเครื่องจักรกลรักษาสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐานอีกด้วย

นอกจากนี้ OKUMA ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรที่ครบวงจรแบบ Total Solution จึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมน้ำมันและพลังงาน อุตสาหกรรมอากาศยาน หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมการเกษตรก็ตาม”

ในส่วนของความร่วมมือระหว่าง กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ และ OKUMA นั้น คุณสมชาย ได้กล่าวว่า “ระหว่างกรุ๊ปวิศวภัณฑ์ และ OKUMA มีแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องการให้ความสำคัญในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าทั้งในด้านเทคนิคและด้านการจัดการเพื่อที่จะช่วยเลือกเครื่องจักรที่ทั้งตรงตามงานและสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า และยังเน้นเรื่องการถ่ายทอดความต้องการของลูกค้าในแง่มุมใหม่ๆ เพื่อให้ OKUMA สามารถนำข้อมูลจากมุมมองของลูกค้าไปใช้ในการพัฒนาเครื่องจักรให้มีคุณภาพต่อไป”

ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า การพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรของ OKUMA นั้นเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลในหลายๆ ประเทศมาพิจารณาถึงปัญหา ความต้องการ และพัฒนาให้มีความเหมาะสม ตรงต่อความต้องการใช้งาน ดังนั้น เสถียรภาพของโปรแกรมการทำงานจึงถือเป็นส่วนสำคัญที่ OKUMA ได้ดำเนินการพัฒนาขึ้น เพื่อนำมาใช้ทำงานร่วมกับเครื่องจักร ซึ่งแนวทางการพัฒนาของ OKUMA นั้นถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ บริษัท กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ฯ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมและพัฒนาไปพร้อมๆ กัน

สำหรับเครื่องจักรที่ได้รับการพัฒนาจนมีความโดดเด่นในตลาดขณะนี้ ได้แก่ เครื่อง Series 5-Axis Vertical Machining Center แบบ 5 แกน สามารถหมุนรอบแกน A ได้ถึง 240 องศา และรอบแกน C ได้ 360 องศา รองรับงาน Machining Center ทุกประเภท พร้อมซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานแบบอัจฉะริยะ OSP Suite ที่มีฟังก์ชันอำนวยความสะดวก อาทิ Operator Change Note, On-machine Manuals Search, Apps Shortcut หรือ Intelligent Maintenance Schedule เป็นต้น โดยเครื่องจักรนี้จะถูกนำไปจัดแสดงภายในงาน METALEX 2016 ด้วย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้มีโอกาสสัมผัสนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ของเครื่องจักรอย่างใกล้ชิด

พร้อมโชว์ศักยภาพในงาน METALEX 2016 ด้วยกระบวนเครื่องจักรคุณภาพสูง

คุณสมชาย ยังได้กล่าวต่อไปถึงการเข้าร่วมงาน MATALEX 2016 ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ว่า “สำหรับงานมหกรรมเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีโลหการ หรือ METALEX 2016 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นั้น ทางบริษัทฯเป็นหนึ่งในผู้แทนจำหน่ายเครื่อง OKUMA ซึ่งทาง OKUMA ได้เตรียมนำกระบวนทัพเครื่องจักรกลคุณภาพสูงเข้าร่วมจัดแสดงภายในงานที่ บูธ BK17 Hall103 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสกับความล้ำสมัยของเครื่องจักรอย่างแท้จริง อาทิ

MU-6300B เครื่อง 5-axis Machining Center! พระเอกของงานที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย
LB-3000EXII เครื่องกลึง CNC รุ่นประสิทธิภาพสูงสุดของ OKUMA
MB-46VA เครื่อง Machining Center เปี่ยมคุณภาพจากญี่ปุ่น
และ GENOS L200E-MY เครื่องกลึง Mill-Turn อเนกประสงค์ ซึ่งผลิตจากโรงงานของ OKUMA ในประเทศไต้หวัน ราคาย่อมเยาว์ เป็นต้น

การออกบูธแสดงสินค้าและเทคโนโลยีในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ดีในการพบปะ แลกเปลี่ยน เจรจาซื้อขาย รวมถึงให้คำปรึกษา คำแนะนำแก่ลูกค้าโดยตรง ได้มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ประกอบการทั้งรายเดิม และรายใหม่ ถือเป็นการสร้างพันธมิตรที่ดี สำหรับการต่อยอดทางธุรกิจต่อเนื่องในอนาคตได้”

กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ ก้าวทันยุค Thailand 4.0

ในส่วนของนโยบายทางการตลาดนั้น คุณสมชาย ได้เผยว่า “บริษัทฯ ได้วางแผนการตลาดให้สอดคล้องกับยุค Thailand 4.0 ที่ภาครัฐได้ประกาศให้มีการผลักดัน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายและสร้างมูลค่าเพิ่มและการเติบโตทางธุรกิจให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการเลือกสรรเครื่องจักรแบรนด์คุณภาพ มาตรฐานสูง รวมทั้งแบรนด์หลักอย่าง OKUMA หรือการนำเข้าเครื่องจักรกลจากยุโรปมาเสริมทัพ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มุ่งผลิตสินค้าป้อนตลาดอุตสาหกรรมใหม่ New S-Curve ให้มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโต โดยเล็งเห็นว่าในยุคปัจจุบันผู้บริโภคนิยมค้นหาข้อมูลสินค้าจากเว็บไซต์ และสื่อโซเชียลมีเดีย เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว ดังนั้น หากบริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันที ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น เว็บไซต์ www.groupcor.com จึงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้เพิ่มช่องทางโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook และ Youtube เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถติดต่อกับบริษัทฯ ได้โดยสะดวก สามารถค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์เครื่องจักรของบริษัทได้ทันที พร้อมกันนี้ ยังมีทีมงานคอยอัพเดทข้อมูลเครื่องจักรกล และบริการใหม่ๆ รวมไปถึงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนความเคลื่อนไหวของบริษัทฯ ให้ผู้ติดตามได้รับทราบอีกด้วย”

กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ ใส่ใจคุณภาพการบริการ เพื่อประโยชน์ลูกค้าเป็นหลัก

นอกจากการปรับกลยุทธ์สู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มตัวแล้ว คุณสมชาย ยังได้ตอกย้ำว่า คุณภาพการบริการและความจริงใจที่มีต่อลูกค้านั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทยึดมั่นเสมอมา

“กรุ๊ปวิศวภัณฑ์มีนโยบายความจริงใจในการให้บริการแก่ลูกค้าทุกราย เพราะด้วยพื้นฐานผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักรกลที่ต้องใช้เทคโนโลยีในการควบคุม ประกอบกับมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ดังนั้น ทีมงานผู้ให้บริการจึงล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกล ที่พร้อมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของลูกค้า โดยมิได้มุ่งหวังเพียงเพื่อผลทางธุรกิจเท่านั้น การใส่ใจและการให้บริการด้วยความจริงใจจึงยังคงเป็นนโยบายหลักที่บริษัทฯ ยึดมั่นและจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ การให้คำปรึกษา หรือคำแนะนำต่างๆ ยังคำนึงถึงความเหมาะสมของประเภทธุรกิจของลูกค้า ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับการผลิต ตรงตามวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งาน หรือแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและผลผลิตได้ ขณะเดียวกันก็ยังต้องให้ความสำคัญกับการลดต้นทุน ที่มาพร้อมคำว่า ‘คุณภาพ’ ด้วย

นี่เองเป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น ในการให้บริการด้วยคุณธรรมและจริยธรรมควบคู่ไปด้วย ไม่เพียงแต่ให้คำปรึกษาให้กับลูกค้าเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อช่วยรักษาและสร้างคุณค่าให้ลูกค้ารังสรรค์ผลผลิตที่มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด โดยไม่ได้มุ่งหวังเฉพาะเพียงแค่ผลกำไรอย่างเดียว หากยังมุ่งหวังให้ลูกค้าได้งานที่มีคุณภาพ สมดังคติที่ตั้งไว้ว่า…ถ้าลูกค้าดี เราก็ดี ไปด้วยนั่นเอง” คุณสมชาย กล่าวในที่สุด

จะเห็นได้ว่า นอกจากการเป็นแบรนด์ผู้นำที่มีความเข้มแข็งในตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักรประเทศไทย ที่ไม่เพียงคัดสรรเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูง กรุ๊ปวิศวภัณฑ์ ยังถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มิได้มองที่ยอดขายของบริษัทเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความหวังดีต่อกลุ่มลูกค้า ทั้งยังพร้อมสนับสนุนศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถตลาดอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพอีกด้วย